Search
Close this search box.

Ambiq ขยายการเข้าถึง Edge AI ให้กว้างขึ้นด้วย Apollo330 Plus Series SoCs

ออสติน รัฐเท็กซัส, March 05, 2025 (GLOBE NEWSWIRE) — Ambiq® ผู้ให้บริการระดับแนวหน้าด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์พลังงานต่ำพิเศษ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการใช้พลังงานสูงของระบบประมวลผลทั่วไปและระบบประมวลด้วย AI ที่ Edge ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ซีรีส์ Apollo330 Plus System-on-Chip (SoC) ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์นี้ประกอบด้วย Apollo330 Plus, Apollo330B Plus และ Apollo330M Plus โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงและตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รองรับการใช้งานด้านการดูแลสุขภาพ บ้านและอาคารอัจฉริยะ การใช้งาน Edge ในอุตสาหกรรม และอื่น ๆ เพื่อขับเคลื่อน AI ที่ทำงานได้ตลอดเวลาและตามเวลาจริงที่ Edge

คุณสมบัติเด่น:

  • หน่วยประมวลผลแอปพลิเคชัน Arm® Cortex®-M55 ความเร็วสูงสุด 250 MHz พร้อม turboSPOT® และเทคโนโลยี Arm® Helium™
  • หน่วยประมวลผลเครือข่าย Arm Cortex-M4F ความเร็ว 48/96 MHz พร้อมวิทยุมัลติโปรโตคอล (ในตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่รองรับระบบไร้สาย)
  • ประสิทธิภาพการทำงานเร็วขึ้น 16 เท่าและความหน่วงเวลาต่ำลง อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน AI ดีขึ้น 30 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันใกล้เคียงที่ใช้หน่วยประมวลผล Cortex-M รุ่นก่อนหน้า
  • ไมโครโฟนดิจิทัล PDM พลังงานต่ำพิเศษเพื่อรองรับการสั่งงานด้วยเสียงตลอดเวลา
  • ตัวเลือกแพ็กเกจและการเชื่อมต่อหลากหลาย เช่น Bluetooth® Low Energy, Matter และ Thread ที่รองรับอุปกรณ์ Edge หลายประเภท

ซีรีส์ Apollo330 Plus ได้รับการออกแบบมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถใช้งานการประมวลผลแบบอนุมานของ AI ได้ตลอดเวลาและตามเวลาจริงในอุปกรณ์ต่าง ๆ ซีรีส์นี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Subthreshold Power Optimized Technology (SPOT®) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Ambiq จึงมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนถึง 16 เท่าและมีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน AI ดีขึ้นสูงสุด 30 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันใกล้เคียงที่ใช้หน่วยประมวลผล Cortex-M รุ่นก่อนหน้า เป็นผลให้ผู้ผลิตสามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติล้ำสมัย ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ รองรับการเชื่อมต่อมัลติโปรโตคอลกับอุปกรณ์ปลายทางที่หลากหลาย และปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น

สถาปัตยกรรมของ Apollo330 Plus ใช้ประโยชน์จากหน่วยประมวลผล Arm Cortex-M55 อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยเทคโนโลยี Arm Helium สำหรับการเร่งความเร็วด้วย AI โดยสามารถประมวลผลได้สูงสุด 8 MAC ต่อรอบ ซีรีส์ Apollo330 Plus ประกอบด้วยหน่วยความจำระบบแบบฝังตัวขนาด 2MB หน่วยความจำถาวรแบบฝังตัวขนาด 2MB แคชคำสั่งขนาดใหญ่ 32kB และแคชข้อมูลขนาด 32kB บนบัสที่มีความกว้าง รวมถึงวิทยุมัลติโปรโตคอลเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน

ขณะที่อุปกรณ์อัจฉริยะในปัจจุบันยังต้องพึ่งพาการประมวลผลบนคลาวด์ที่ใช้พลังงานสูง แต่ซีรีส์ Apollo330 Plus ช่วยสร้างโอกาสใหม่โดยการการเปิดใช้งานการประมวลผล Edge AI ได้อย่างแท้จริง” Fumihide Esaka ประธานกรรมการบริหารของ Ambiq กล่าว “สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น ตอบสนองได้ดีขึ้น และมีความอัจฉริยะมากขึ้นสำหรับบ้าน สำนักงาน และโรงงาน

ด้วยจำนวนการใช้งาน Edge AI รูปแบบใหม่และมีศักยภาพสูงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมและบ้านอัจฉริยะ การประมวลผลด้วย AI พลังงานต่ำพิเศษโดยตรงบนอุปกรณ์ Edge จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” Laurence Bryant รองประธานฝ่ายการตลาดแบบแบ่งส่วนของกลุ่มธุรกิจ IoT ที่ Arm กล่าว “ด้วยโซลูชันใหม่ที่สร้างขึ้นบน Arm นี้ Ambiq กำลังปูทางไปสู่อุปกรณ์ที่ชาญฉลาดขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถมอบการวิเคราะห์อัจฉริยะได้แบบตามเวลาจริงในกรณีการใช้งานหลากหลายรูปแบบ

ซีรีส์ Apollo330 Plus มีสามรุ่น ได้แก่

  • Apollo330 Plus รุ่นพื้นฐานที่ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย แต่มาพร้อมชุดอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ครบครัน เหมาะสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ อุปกรณ์ทางการแพทย์/การดูแลสุขภาพ และบ้านอัจฉริยะ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่อาศัยเซ็นเซอร์ขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย
  • Apollo330B Plus รุ่นที่เสริมจาก Apollo330 Plus โดยเพิ่มการรองรับ Bluetooth® Low Energy (BLE) รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงและแอปพลิเคชันเสียงต่าง ๆ มากมาย
  • Apollo330M Plus เพิ่มวิทยุมัลติโปรโตคอลที่รองรับ IEEE 802.15.4, Thread และ Matter ช่วยให้สามารถสร้างเครือข่าย Mesh พลังงานต่ำที่ทำงานร่วมกันได้ระหว่างบ้านอัจฉริยะ สมาร์ทมิเตอร์ และอุปกรณ์ Edge สำหรับอุตสาหกรรมรุ่นใหม่

สถาปัตยกรรมมัลติคอร์ที่ออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพนี้ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลแอปพลิเคชันที่ทรงพลังและหน่วยประมวลผลเครือข่ายร่วมโดยเฉพาะ เพื่อการทำงานของระบบวิทยุที่มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ลดทอนสมรรถนะ การออกแบบนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการพัฒนา พร้อมคงประสิทธิภาพสูงสุดของระบบวิทยุมัลติโปรโตคอล โดยให้กำลังสัญญาณที่มั่นคงถึง +14dBm และเพิ่มความไวในการรับสัญญาณวิทยุ

คุณสมบัติ secureSPOT® 3.0 ล้ำสมัยที่ใช้เทคโนโลยี Arm TrustZone® ช่วยยกระดับ Apollo330 Plus Series SoC ให้ดียิ่งขึ้น โดยรับรองความสมบูรณ์และความลับของข้อมูลที่ส่งและประมวลผลโดยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ อีกทั้งกลไกรักษาความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ เช่น Secure Boot และ Secure Firmware Update ทำให้ SoC เหล่านี้สามารถป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตและการโจมตีที่เป็นอันตราย จึงสามารถนำไปใช้งานได้อย่างปลอดภัยในหลากหลายรูปแบบ

ในฐานะผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Ambiq ซีรีส์ Apollo330 Plus SoC ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับการประมวลผลด้วย AI พลังงานต่ำพิเศษที่ Edge การรองรับการเชื่อมต่อที่มากขึ้น ความปลอดภัย อินเทอร์เฟซอุปกรณ์ต่อพ่วงที่หลากหลาย และตัวเลือกแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น SoC เหล่านี้ทำให้นักพัฒนามีเครื่องมือที่จำเป็นในการนำโซลูชัน AI ที่ซับซ้อนและประหยัดพลังงานไปใช้ในอุปกรณ์ Edge

ดูซีรีส์ Apollo330 Plus SoC และพบกับ Ambiq ที่งาน Embedded World 2025 โดยจองการประชุมกับทีมงาน

เกี่ยวกับ Ambiq

พันธกิจของเราคือการนำความอัจฉริยะ (ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีอื่น ๆ) ไปสู่ทุกพื้นที่ด้วยการส่งมอบโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้พลังงานต่ำสุด เราช่วยให้ลูกค้าสามารถนำระบบประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ไปใช้งานบนอุปกรณ์ Edge ซึ่งเป็นจุดที่มีความท้าทายด้านการใช้พลังงานมากที่สุด นวัตกรรมเทคโนโลยีของเราพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Subthreshold Power Optimized Technology (SPOT) ที่ได้รับสิทธิบัตรและเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นกว่าการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ดั้งเดิมหลายเท่า ปัจจุบัน เราได้ให้พลังงานแก่อุปกรณ์กว่า 260 ล้านเครื่องทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.ambiq.com

ข้อมูลติดต่อ

Charlene Wan
รองประธานฝ่ายการสร้างแบรนด์ การตลาด และนักลงทุนสัมพันธ์
cwan@ambiq.com
+1.512.879.2850

ดูรูปภาพประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/caa4645a-4944-4bf7-b13b-0a3177b7d62c

GlobeNewswire Distribution ID 9389196